จนปี พศ. 2556 มีเหตุทำให้มาอยู่ที่ภาคอีสาน กลางผืนป่า 300 ไร่ ที่เรียกว่า "วัดป่าดงยาง" ในปัจจุบัน จึงมีความเข้าใจเห็นประโยชน์ส่วนรวมของการสร้างเสนาสนะต่างฯ เข้าใจเจ้าอาวาสวัดต่างฯที่ท่านก่อสร้างกุฏิศาลา ท่านเป็นพระที่เสียสละเวลาส่วนตัว ดูแล, จัดการ, บริหาร, งานก่อสร้าง ให้เป็นประโยชน์เพื่อสังคมส่วนรวม ในบวรพุทธศาสนา แม้ผู้ที่ท่านต้องบริหารนั้นยังเป็นคนโลกฯ ยังไม่เข้าใจคำว่า "บุญกุศลอย่างแท้จริง" ก็ตาม จนกว่าผู้ที่ถูกบริหารทั้งหลายเหล่านั้นจะเห็นโทษของความวุ่นวาย เป็นผู้แสวงหาความสงบอย่างถาวร เดินเข้าสู่ความเป็นบุญ พัฒนาสู่ความเป็นกุศล มีความสงบเย็นเป็นที่อยู่ของจิตใจ ความเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์จึงจะเกิดขึ้นที่หัวใจดวงนั้น |