พระอาจารย์ครับ มีอะไรให้ผม และชาวบ้านรับใช้ครับ...  วลีที่ไม่เคยคิดว่าจะได้ยินจากผู้นำ (ผู้ใหญ่บ้าน) บ้านหนองม่วง ซึ่งเป็นบ้านเกิดของผู้เขียนเอง เช้าวันนี้ (23 มิถุนายน 2559) ผู้ใหญ่บ้าน "หำ" ได้พาผู้ช่วยทั้งสอง และชาวบ้าน บ้านหนองม่วง มาช่วยกางเต็นท์ที่วัด ซึ่งจะมีงานต้อนรับคณะแสวงบุญซึ่งนำโดย "เจ้าคณะจังหวัดแม่ฮ่องสอน" ในวันที่ 27 - 28 มิถุนายนนี้  หลังจากพาลูกบ้านทำงานเสร็จแล้ว ผู้ใหญ่หำเข้ามาหาผู้เขียนด้วยกิริยานั่งพับเพียบประนมมือขึ้น พร้อมกับพูดขึ้นว่า "พระอาจารย์ครับ พระอาจารย์มีอะไรให้ผม และชาวบ้านรับใช้ครับ ผมจะมาหาทุกเช้าจนกว่าจะเสร็จงาน เพื่อรับใช้พระอาจารย์ครับ"  โอ้หนอ.. อำนาจแห่งพุทธคุณ ธรรมคุณ สังฆคุณ โดยแท้.....

เจ้าของวลี (เสื้อสีส้ม)มีป้ายเข้าวัดแล้วนะจ๊ะใช้เต็นท์ 15 หลังด้วยกัน

             บุญที่มิได้วัดกันที่ลาภสักการะ...  มิได้วัดกันที่สรรเสริญ หรือชื่อเสียง เกียรติยศ.. การสร้างบุญกุศล คุณงามความดี มีอยู่หลายระดับด้วยกัน องค์ประกอบที่ทุกฯคนมีเหมือนกันคือ ความหนักแน่น - ความเข้มแข็ง - ความอดทน - ความพากเพียร  แต่องค์ประกอบที่สำคัญอย่างยิ่งที่ผู้คนมักจะมองข้ามคือ "ความมั่นคง" ให้ตลอดรอดถึงฝั่ง.....

 
 

 

           เจ้าคณะจังหวัดแม่ฮ่องสอนมาเยือน...  ขอเชิญร่วมให้การต้อนรับคณะผ้าป่าสามัคคีจากจังหวัดแม่ฮ่องสอน นำโดยเจ้าคณะจังหวัดแม่ฮ่องสอน  โดยมีกำหนดการดังนี้  คณะผ้าป่าเดินทางถึงวัดป่าดงยาง  ต.สวนจิก  อ.ศรีสมเด็จ  จ.ร้อยเอ็ด  วันจันทร์ที่ 27 มิถุนายน 2559

           อาหารพื้นบ้านของชาวภาคอีสาน...  ขอเชิญร่วมเป็นเจ้าภาพถวายภัตตาหารแด่คณะสงฆ์ มีเจ้าคณะจังหวัดแม่ฮ่องสอนเป็นประธาน - และเลี้ยงอาหารคณะญาติธรรม - ผู้แสวงบุญ  โดยมีกำหนดการดังนี้   เย็นวันจันทร์ที่ 27 มิถุนายน เลี้ยงอาหารคณะญาติธรรม - ผู้แสวงบุญ (คณะผ้าป่าสามัคคี)  และเช้าวันอังคารที่ 28 มิถุนายน  ถวายภัตตาหารแด่คณะสงฆ์ มีเจ้าคณะจังหวัดแม่ฮ่องสอนเป็นประธาน - และเลี้ยงอาหารคณะญาติธรรม.

เจ้าคณะจังหวัดแม่ฮ่องสอนและคณะ ภาพ 29 มิถุนายน 2558 (ปีที่แล้ว)  ดูภาพและรายละเอียดเพิ่มเติม
 
 
 

             เดินข้ามทุ่ง - บอกบุญโยมแม่...  เย็นวานนี้ (14 มิถุนายน 2559) เดินทางลัดเลาะออกจากป่า300ไร่ และเดินข้ามทุ่งนาตรงไปยังบ้านหนองม่วง จุดประสงค์คือไปบอกบุญโยมแม่ผู้ให้กำเนิด - โยมพี่ - และโยมน้อง ซึ่งต่างก็มีอาชีพเป็นชาวไร่ชาวนา มีความเป็นอยู่และใช้ชีวิตตามอัตภาพของคนอีสานในชนบท  เมื่อโยมแม่ทราบถึงงานบุญที่กำลังจะเกิดขึ้นที่วัดป่าดงยางแล้วจึงได้กล่าวเป็นภาษาอีสานว่า "โยมแม่ได้เก็บเงินเดือน (เงินเดือนผู้สูงอายุ) ไว้ 500 บาท ตั้งใจจะซื้อหมอน 3 เหลี่ยมใว้เป็นของขวัญถวายท่านเจ้าคณะจังหวัดแม่ฮ่องสอนที่จะมาวัดป่าดงยาง) โยมแม่กล่าวด้วยน้ำเสียงที่แสดงออกถึงความสุขอย่างยิ่ง...  เป็นชีวิตจริงของผู้เขียนเอง ที่มีบุพการีเป็นชาวนาในท้องถิ่นชนบทบ้านนอก  แต่... บุญกุศลที่สร้างด้วยพลังศรัทธาก็ให้ผล โดยไม่เลือกว่าผู้สร้างนั้นจะเป็นชาวนาที่ยากจน หรือเป็นเศรษฐีที่ร่ำรวย  โอ้หนอ... ช่างยุติธรรมดีแท้ ทำดีได้ดี.....

ต้นไม้รอบวัดป่าดงยางเลี้ยงเป็ดขายไข่และกลับสู่วัด(ที่นอน)
 
 
 

 

             พยายามหลบหลีก (ยักษ์ - ภูตผีปีศาจ - ตระกูลต่างฯ) แต่ไม่พ้น...  เย็นวันเดียวกัน (14 มิถุนายน 2559) ขณะที่เดินถึงต้นไม้ชนิดหนึ่งที่คนอีสานเรียกว่า "ต้นบก" (ดังในรูป) ก็ทำให้คิดถึงสมัยย้อนหลังไปหลายสิบปี ขณะนั้นอายุ 16 ปี (ขณะนี้แก่ชราแล้ว) ทุกฯเช้าเย็นจะมาซ้อมมวย เตะกระสอบทราย หากจะเรียกตามตรงก็เรียกได้ว่า "กระสอบแกลบและดิน" อยู่ที่ต้นบกนี้แหละ โดยหาแกลบและดินบรรจุลงในกระสอบปุ๋ย แขวนบนกิ่งต้นบก และฝึกเตะทุกเช้าเย็น ด้วยความที่ไม่มีครูมวย หรือพี่เลี้ยงมาสอน แรกฯ ก็รู้สึกอายชาวบ้านที่ทำนาอยู่ไกล้กัน แต่ด้วยใจรักก้มหน้าก้มตาฝึกไม่สนใจคนรอบข้าง ความอายก็ลดลงฯ และหายไปในที่สุด

             และการขึ้นสังเวียนผ้าใบครั้งแรกก็บังเกิดขึ้น...  เมื่อมีงานวัดที่บ้านหนองใหญ่ ได้เดินเท้าระยะทาง 4 กิโลเมตร ไปเปรียบมวย และได้คู่ชก มารู้ภายหลังว่าคู่ชกของเราคนนี้เคยผ่านสังเวียนมีประสบการณ์มามากแล้ว เมื่อวันเวลาการขึ้นเวทีครั้งแรกมาถึง การชกได้เริ่มขึ้นและในที่สุด ฟ้ามีชัย ศรีมงคล (ชื่อนักมวยของเราเอง) ก็เป็นฝ่ายชนะน็อคยกที่ 1 พร้อมกับรับค่าตัวไปเหนาะฯ จำนวน 40 บาท.....

คนอีสานเรียกว่า "ต้นบก"

                  เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ (15 มิถุนายน 2559) ตลอดระยะเวลา 3 พรรษา ที่วัดป่าดงยางแห่งนี้... เมื่อตัดสินใจมาอยู่จำพรรษาที่บ้านเกิด ได้ไปปลูกกระต๊อปมุงหญ้าคาบำเพ็ญภาวนาอยู่กลางป่า มีชาวบ้านที่มาหาเก็บเห็ดพบเข้า เขาทั้งหลายก็พากันถามว่า "อาจารย์ทำไมจึงเข้ามาอยู่ลึกแท้" หากจะตอบเขาตรงฯ เขาคงไม่เข้าใจดอก ถึงจะอธิบายเขาก็คงไม่เข้าใจอยู่ดี จึงตอบไปว่า "แค่นี้ไม่ลึกดอก หากมีลึกกว่านี้อาตมาก็จะเข้าไป" ก็ไม่ทราบว่าเขาจะเข้าใจหรือเปล่า แล้วเขาทั้งหลายเหล่านั้นก็พากันหาเก็บเห็ดต่อไป...

             ภาษาธรรม หากไม่มีความเพียรพยายามที่จะเข้าใจ ก็เป็นการยากที่จะสามารถเข้าใจได้... เมื่อวานนี้ (15 มิถุนายน 2559) สถานการณ์ต่างฯ ทำให้จำเป็นต้องไปที่ ที่ไม่อยากไปคือ "โรงพัก" สถานีตำรวจอำเภอศรีสมเด็จ แต่ยังไม่แล้วเสร็จ ทั้งหมดจึงมีใบนัดไปหาหัวหน้าของแต่ละฝ่าย ฝ่ายตำบลสวนจิกก็ไปหาหัวหน้าคือนายก อบต ฝ่ายตำบลหนองใหญ่ก็ไปหาหัวหน้าคือนายก อบต มาคิดดูแล้วเราจะไปหาใครที่ไหนล่ะ เพราะอยู่คนเดียว ไม่มีกรรมการวัด ไม่มีศรัทธาเหมือนวัดบ้านทั่วไป ในใบนัดนั้นระบุว่า "วันที่ 22 มิถุนายน 2559 นี้ ให้ทั้งหมดทุกฝ่ายมาที่สถานีตำรวจอีกครั้งในเวลา 10.00 น."  โอ้หนอ.. เราจะได้ไปเทศน์ให้บรรดายักษ์ทั้งหลายฟังอีกแล้วหรือนี่.....