เพราะการเดินทางทำให้พบเจอหลายฯอย่างในชีวิต ทำให้รู้จักตัวเองมากขึ้นว่า สถานที่และสิ่งแวดล้อมอย่างไรจึงจะเหมาะกับตัวเอง ทำให้นึกถึงสถานที่แห่งหนึ่งที่เหมาะกับคำว่า"กรรมฐาน" เป็นสถานที่ ที่อยู่บนเกาะกลางทะเลสาบ ก่อนที่จะมีทะเลสาบเกิดขึ้นสถานที่แห่งนี้เป็นวัดที่มีเจดีย์ จนปัจจุบันนี้วัดแห่งนั้นรวมทั้ง กุฏิ ศาลา ที่พักทั้งหลายจมอยู่ในน้ำใต้บาดาล จึงเหลือเพียงเจดีย์ที่อยู่สูงบนยอดดอยที่น้ำท่วมไม่ถึง เดี๋ยวนี้บางคนก็เรียกกันว่าวัดร้างบ้าง เจดีย์ร้างบ้าง จึงมีชื่อที่เหมาะสมว่า "เจดีย์ร้างบนเกาะกลางทะเลสาบ" และข้าพเจ้าก็ตั้งใจที่จะเดินทางไปสถานที่แห่งนั้นอีกครั้ง แล้วชีวิตแห่งการเดินทางก็เริ่มขึ้นอีกครั้งหนึ่ง เมื่อเข้าสู่ต้นเดือนกุมภาพันธ์.

           คงเป็นเพราะความสงสัยของผู้คนทั้งหลาย ทำให้เกิดคำถาม แม้จะตอบไปแล้วเขาเหล่านั้นก็คงยังไม่เข้าใจอยู่ดี และคำที่ถูกถามมากคือ เมื่อเกาะร้างแห่งนี้ไม่มีผู้คนอาศัยอยู่ แล้วท่านจะมีอะไรได้ขบฉันเพื่อให้ร่างกายสามารถอยู่ได้ คงเป็นเพราะความความเคยชินของฆราวาสทั่วไปกระมัง เรื่องอาหารการกินจึงเป็นเรื่องใหญ่ ทำให้นึกถึงคำสอนของพระบรมศาสดาเรื่องการประจบฆราวาสว่า "จะด้วยคำพูดที่บอกโดยตรง เลียบเคียง หรือหว่านล้อมด้วยวิธีการต่างฯ เพื่อให้ได้มาซึ่งวัตถุสิ่งของ สรรเสริญ สุข กับบุคคลที่ไม่ใช่ญาติ ไม่ใช่บุคคลที่ปวารณาใว้ นั่นคือการประจบคฤหัสถ์" ภิกษุสาวกในธรรมวินัยนี้ไม่ควรประพฤติ มองไปข้างหน้าเห็นผืนน้ำอันกว้างใหญ่ของทะเลสาบแห่งนี้ หากมีผู้คนสักร้อยสักพันทั้งดื่มทั้งกินน้ำในทะเลสาบแห่งนี้ตลอดสิบชาติ ข้าพเจ้าเชื่อว่าน้ำยังไม่หมดแน่นอน แล้วจะไปกังวลทำไมเรื่องอาหารทางกาย อาหารทางจิตวิญญาณต่างหากที่สำคัญทั้งในชาตินี้และชาติหน้า.

เจดีย์ร้าง บนเกาะกลางทะเลสาบ

ไม่มีผู้คนอาศัย ไม่มีไฟฟ้า มีแต่ธรรมชาติ