|
สาธยายพระไตรปิฏก / ถ้ำสัตตบรรณคูหา |
เช้าวันที่ 23 กันยายน 2560_พระสงฆ์ไทยและพระสงฆ์นานาชาติฝ่ายเถรวาทจำนวน 250 รูป เดินทางขึ้นสู่เขาเวภาระบรรณพต หนึ่งในห้าเขาเบญจคีรี เมืองราขคฤห์ สู่ถ้ำสัตตบรรณคูหา สถานที่ ที่ซึ่งมีพระอรหันต์ 500 รูป มาประชุมกระทำปฐมสังคายนาเป็นครั้งแรก หลังพระพุทธเจ้าเสด็จดับขันธ์ปรินิพพาน 3 เดือน เมื่อครั้งพุทธกาล ที่ถ้ำแห่งนี้ |
มีพระหลวงตารูปหนึ่งอายุได้ 92 ปีแล้ว ด้วยพลังศรัทธาที่ยิ่งใหญ่ของท่าน สังขารร่างกาย อายุของท่านจึงมิใช่ปัญหากับการปีนป่ายขึ้นเขาในครั้งนี้ แม้จะต้องพักระหว่างทางอยู่บ่อยฯก็ตาม แต่ในที่สุดหลวงตารูปนั้นก็สามารถมาถึงจุดหมายปลายทางเช่นเดียวกับพระหนุมเณรน้อย |
|
|
| | | พระสงฆ์ 250 รูป_ภาคเช้า | ภาคบ่าย_บ้างก็หลบแดดเข้าถ้ำ |
|
มารู้ภายหลังว่าหลวงตารูปนั้นคือ เจ้าอาวาสวัดโสธร จังหวัฉะเชิงเทราท่านเดินทางมาจากเมืองไทย เป็นประธานสงฆ์ ในงานสาธยายพระไตรปิฎกในครั้งนี้ โดยมีพระอาจารย์มหาวิเชียร เจ้าอาวาสวัดไทยสิริราชคฤห์ เป็นประธานดำเนินงาน ประสานงาน (แม่งาน) เมื่อถึงเวลา 09.00 น. พิธีสวดสาธยายพระไตรปิฎกก็เริ่มขึ้น |
พระสงฆ์ 250 รูป เริ่มสาธยายพระไตรปิฎกดำเนินไปจนถึงเวลาบ่ายสองโมง ขณะนั่งอยู่บริเวณปากถ้ำความง่วงกำเริบอย่างแรง มองไปด้านหน้าเห็นแดดที่ผ่านยอดเขาไกล้เข้าฯ คิดในใจว่า "เอาละระหว่างความร้อนของเปลวแดดกับความที่ง่วงมากฯขณะนี้สู้กัน ฝ่ายใดจะเป็นผู้ชนะ" ไม่นานแดดนั้นก็มาถึง ระหว่างทั้งสองฝ่ายสู้กันอยู่นานความร้อนเป็นฝ่ายชนะ ทำให้คิดอีกว่า "เอาละทีนี้ระหว่างความร้อนกับขันติฝ่ายใดจะเป็นผู้ชนะอีก" |
พระสงฆ์ 250 รูป ทั้งที่อยู่ในถ้ำนอกถ้ำยังสวดสาธยายพระไตรปิฎก การต่อสู้ของทั้งสองฝ่ายก็ยังคงดำเนินต่อไป นานพอสมควรขณะนั้นแดดร้อนมาก มีพระหนุ่ม 2 รูปท่านช่วยกันหามเสลี่ยงมา 2 ตัว แล้วเอาผ้าใบคลุมเสลี่ยงไว้ (ตามรูป) ทำให้ขณะนั้นแดดหายไป การต่อสู้นั้นยุติลงโดยไม่ทราบว่าฝ่ายใดชนะ ขณะพนมมืออยู่นั้นพูดในใจว่า "สังโฆเมนาโถ พระสงฆ์เป็นที่พึ่งของเราโดยแท้" พร้อมกับจดจำใบหน้าของพระสงฆ์รูปนั้นไว้ ที่ท่านมาเป็นกรรมการในวันนี้. |
|