บุคคลผู้ที่รู้ทั้งสองโลกอย่างแจ่มแจ้งในอดีตที่ผ่านมาอันไกลโพ้น ทำให้นึกถึงเรื่องที่พระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า สมัยเมื่อครั้งที่เสวยพระชาติเป็นพระโพธิสัตว์(ชาติที่บำเพ็ญบารมีชาติสุดท้าย) ที่พระองค์เกิดเป็น "พระเวสสันดร" จิตใจของพระองค์มีความตั้งใจมั่นคงอันแรงกล้าที่จะบำเพ็ญบารมีให้ครบถ้วนสมบูรณ์ เพื่อบรรลุเป้าหมายอันสูงสุด แต่โลกคือที่อยู่ของจิตวิญญาณ และนำพาจิตวิญญาณของพระองค์เพื่อไปให้ถึงซึ่งจุดหมายปลายทางนั้น สวนทางกับโลกของเหล่าเสนาอำมาตย์และชาวบ้านชาวเมือง(ในตำนาน) ทำให้ถูกเนรเทศ(ภาษาชาวบ้านเรียกว่าขับไล่) ออกนอกเมืองไปอยู่ในป่า ยุคปัจจุบัน วันเวลาผ่านไปกว่า 2,500 ปีแล้ว ล่วงเข้าสู่ยุคค่อนพุทธกาล (ตำรากล่าวว่าศาสนาพุทธจะมีอายุ 5,000 ปี) ผู้ที่มีปณิธานอันแรงกล้า ที่ถือเอาคำสอนของพระศาสดาเป็นที่ตั้ง จะสามารถอยู่ใน "โลกที่เหมือน โลกที่แตกต่าง" สังคมในยุคนี้อย่างไร แล้วท่านผู้ติดตามมีความเห็นอย่างไร ถ้อยคำต่อไปนี้จึงเป็นถ้อยคำที่พยายามมองต่างมุม ในหลายฯมุม ท่านอาจจะไม่เคยอ่านไม่เคยพบเห็นในสื่อต่างฯ แต่มีอยู่จริงในสังคมยุคปัจจุบัน ความตั้งมั่นในจุดประสงค์ที่แตกต่างกัน ความประพฤติการปฏิบัติตัวในดำเนินชีวิตจึงมีความแตกต่างกัน แม้บางครั้งการกระทำเหมือนกันแต่จุดประสงค์แตกต่างกัน ผู้ไม่มีปัญญา(ทางธรรม)ย่อมไม่สามารถล่วงรู้ถึงความแตกต่างนั้นได้ |